Nearly two thirds of the Park is natural bushland containing 319 species of native plants and around 80 bird species. The balance of the Park is made up of superbly cultivated gardens and open recreational areas.

For Western Australians and for the many interstate and international visitors, Kings Park and Botanic Garden is a place of inspiration, relaxation, recreation and wonder. The Botanic Gardens and Parks Authority manages Kings Park and Botanic Garden in accordance with the Kings Park and Botania Garden Managemen Plan, to ensure the conservation of native biological diversity and cultural heritage icons, while providing for the diverse range of visitor interests.

LotteryWest Federation Walkway

LotteryWest Federation Walkway, Kings Park. Fancy being high up in the tree tops? Go to LotteryWest Federation Walkway.

How to get to Kings Park:
If you are coming up Malcolm Road from the city, as you reach the top of the hill, take a left turn at the roundabout (landmark to watch out for is the Edith Cowan Clock Memorial) onto Fraser Avenue which is the main entrance to Kings Park. Alternatively, if you are in the city and would like a more strenuous and scenic walk, start your walk at the intersection of Mount Street and Spring Street. Then walk over the pedestrian footbridge and take a steep walk up Mount Street and you will reach Fraser Avenue, the main entrance to Kings Park. Note that Mount Street is a turn off from St George's Terrace towards the western end of the Terrace.

สวนคิงส์พาร์ค มีพื้นที่ทั้งหมด 400 เฮกแตร์ (ราว 2,500 ไร่) ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์ (Botanic Garden) 17 เฮกแตร์ (ประมาณ 106 ไร่เศษ)  เดิมชื่อ Perth Park เปลี่ยนเป็น Kings Park  เมื่อปี 1901 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ King Edward VII  ที่เสด็จมาเยี่ยมเจ้าพระโอรส Duke of Cornwell  และเจ้าหญิง Mary ซึ่งต่อมาขึ้นเป็น King George และ Queen Mary 
ขณะที่สวนพฤกษศาสตร์ เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1965 รวบรวมพันธุ์ไม้นานาชนิดไว้กว่า 2,000 ชนิด หรือนับหมื่นสปีชีส์   

สถานที่สำคัญต่างๆและพฤษศาสตร์

ลักษณะภายในคิงส์ พาร์ค เป็นสวนป่า รวบรวมพรรณไม้ท้องถิ่นของออสเตรเลียไว้เกือบทุกชนิด โดยเฉพาะพืชประจำถิ่นของ เวสเทิร์น ออสเตรเลีย ประเภทดอกไม้ป่า  ช่วงฤดูดอกไม้ผลิราวเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ดอกไม้ป่าพวกนี้จะอวดดอกบานสะพรั่งงดงามสุดพรรณนา นอกนั้นยังมีร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ รูปปั้น อนุสาวรีย์บุคคลสำคัญ เช่น Lord John Forrest ผู้บุกเบิกและเป็น ผอ.คิงส์ พาร์คคนแรก หอคอย DNA Tower


    แผ่นจารึกชื่อของผู้พลีชีพในสงครามค่ะ
             
พิพิธภัณฑ์อะบอริจิน อนุสรณ์สถานผู้พลีชีพในสงคราม (State War Memorial)  และพื้นที่จัดปาร์ตี้ พักผ่อน เป็นต้น การจะชมดอกไม้ป่านั้นต้องตรวจสอบว่าฤดูกาลไหนดอกไม้บานเต็มที่ ที่นี่จะมีบริการจัดทัวร์ชมดอกไม้โดยเฉพาะมีคนรักดอกไม้ให้ความสนใจอย่างมาก  โดยทัวร์ในแต่ละช่วงเวลา

จะไม่เหมือนกัน  จากการที่ดอกไม้ป่าบานไม่พร้อมกัน โดยรวม ๆ จะเริ่มบานในช่วงเดือนกรกฎาคม เริ่มจากทางเหนือของรัฐ เรื่อยลงไปทางใต้ใน เดือนพฤศจิกายน แต่ไปในช่วงเดือนกันยายนจะเหมาะสมที่สุด ในช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป สวนคิงส์ พาร์ค จะปลูกดอกไม้ป่านานาชนิดไว้ให้

นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม  โดยจะปลูกดอกไม้ป่าประจำถิ่นของแต่ละเมืองไว้ตามมุมต่าง ๆ  คนที่ไม่มีเวลาไปเที่ยวตามเมืองต่าง ๆ สามารถมาชมที่คิงส์ พาร์คได้เลย และผมก็ไปเพิร์ทช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาพอดี จึงมีโอกาสเก็บความงดงามของมวลไม้ดอกมาฝาก ดอกไม้ส่วนใหญ่ที่นำมาจัดแสดงเป็นดอกไม้ที่ขึ้น ตามธรรมชาติตามป่า หรือตามสองข้างทางในเมืองต่าง ๆ ของรัฐออสเตรเลียตะวันตก  เช่น ดอก Banksia หลากหลายสายพันธุ์ ลักษณะคล้าย ๆ หางกระรอก Yellow Feather Flower ที่ส่วนใหญ่เคยเห็นแต่เป็นดอกไม้แห้ง มาที่นี่ได้เห็นของสด ๆ เหลืองสดใสงดงามมีชีวิตชีวาจริง ๆ ขณะที่ดอก เอเวอร์ลาสติ้ง 

(Everlasting) หรือดอกไม้นิจนิรันดร มีทั้งสีเหลืองอ่อน ขาว และชมพู  เกสรสีเหลือง กลีบแข็งคล้ายกระดาษ  บานเป็นเดือน สามารถทำเป็นดอกไม้แห้งได้ด้วย อาจเป็นที่มาของชื่อดอกไม้นิจนิรันดรนั่นเอง  ตามสองข้างทางนอกเมืองเพิร์ทจะมีดอก Everlasting ขึ้นตามธรรมชาติงดงามมาก แหล่งปลูกที่สำคัญ ของดอกไม้ชนิดนี้อยู่ที่เมืองมัลเลวา (Mallewa) ซึ่งได้ฉายาว่าเป็น The heart of wildflower country อยู่ริมฝั่งทะเลทางเหนือของเพิร์ทประมาณ 450 กิโลเมตร

ส่วนดอก Wreath หรือ ดอกหรีด ก็มีสีสันน่าพิศวงชวนชม ต้นหรีดลักษณะเป็นกอทรงกลม เหมือนพืชคลุมดิน ลักษณะดอกเป็นวงกลมแบน ๆ  สีของดอกด้านนอกจะเป็นสีหนึ่ง ด้านในจะเป็นอีกสีหนึ่ง เช่น วงกลมด้านนอกเป็นสีชมพู ด้านในเป็นสีเขียว ดูคล้ายพวงหรีด แหล่งปลูกที่สำคัญอยู่ที่ เมืองมัลเลวาเช่นกันขณะที่ Pokers  เป็นดอกไม้ป่าที่ดอกเป็นชั้น ๆ มีสีแดงและชมพู นอกนั้นก็มี อคาเซีย (Acacia) สีเหลืองและขาวมีหลายรูปทรง ทั้งกลมและยาวรี ๆ ดอก ยูคาลิปตัส (Eucalyptus) ตลอดจนดอกไม้ป่าและกล้วยไม้ป่า รวมทั้งต้นไม้ใหญ่อายุยืนอย่าง Baubab ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นขนาดยักษ์ ในทะเลทราย ที่มักจะมีกิ่งก้านไม่ค่อยมีใบ ในสวนนี้มีหลากชนิด และ กราสทรี (Grass Tree) ต้นไม้อายุยืน คล้าย ๆ ปาล์มชนิดหนึ่ง ใบเหมือนใบหญ้า

แต่ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ก็คือต้น Kangaroo Paw  หรือ กรงเล็บจิงโจ้  เป็นดอกไม้ป่าชนิดหนึ่งซึ่งแม้จะพบทั่วไปแต่ถือว่าเป็นไม้เฉพาะถิ่นและเป็น เอกลักษณ์ของรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย มีหลากหลายสี  โดยคิงส์ พาร์ค เป็นแหล่งรวบรวมดอกไม้ชนิดนี้ไว้มากที่สุด  โดยเฉพาะสายพันธุ์ Manglesii 

ตั้งชื่อเป็นเกียรติ Robert Mangles  ชาวอังกฤษ ที่ปลูก Kangaroo Paw จากเมล็ดที่ส่งไปจากออสเตรเลียในช่วงปี 1830 “กรงเล็บจิงโจ้” นั้นสมัยก่อน เป็นหนึ่งในเครื่องปรุงยาของชาวอะบอริจิน หัวอยู่ใต้ดิน  ใบอาจยาวถึง 30-60 เซนติเมตร ส่วนดอกอาจจะยาวถึง 1 เมตร สีเขียวและแดงเป็นกำมะหยี่  ก้านดอกสีแดงสด  ดอกเป็นเหมือนใบดาบบิดปลายหยักขึ้น มีเกสรเป็นเส้นยื่นออกมา แลดูเหมือนกรงเล็บของจิงโจ้  ออกดอกช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน
ส่วนใหญ่จะเห็นชนิดสีแดงเขียว (Anigozanthos manglesii)  แต่ถ้าเป็นดอกสีเหลืองต้นเล็ก ๆ จะหายากและออสเตรเลียหวงมาก ปัจจุบันมีการขยายพันธุ์ ไปปลูกในสหรัฐ และญี่ปุ่น.

การเดินทาง
การเดินทางไปสวนสาธารณะคิงส์ พาร์ค ง่ายมากค่ะ จากตัวเมืองเพิร์ทขึ้นรถบัสสาย 37 หรือสายอื่น ๆ ที่ผ่านคิงส์ พาร์ค จากถนน St.Georges Terraceฝั่งตรงข้าม London Court ที่กล่าวข้างต้น ซึ่งไม่เสียค่าโดยสารเพราะอยู่ในเขต FTZ (Free Transit Zone) ถ้านั่งแท็กซี่ประมาณ 10-15 นาที 
สวนสาธารณะคิงส์ปาร์คและดอกไม้ในสวนพฤกษศาสตร์ เป็นสีสันที่เติมพลังแห่งชีวิตชีวาและการเดินทางให้สมบูรณ์ เมื่อไปเยือนเวสเทิร์น ออสเตรเลีย...


Photo slideshow

===============================================================

I'm Thai Student studying in Perth W.A.  I hope you get benefit from what I discover, you can follow my travel diary at this link (includes photo album)  click here

PLEASE VISIT THIS FORUM SECTION - STUDY W.A.       VISIT WWW.AUSWATHAI.COM TO SHOW YOUR SUPPORT